Title:Love and hate 4
Couple: KhunWoo OKKay
Writer: ilovekw
Rate : PG
Gente : dark drama and Romantic
ฟิคเรื่องนี้ที่เกิดจากจินตนาการของไรทเตอร์ enjoy reading ^^
“ผมให้พวกคุณไปหาศัลยแพทย์ทางสมองที่เก่งๆมาผ่าตัดให้อูยอง แต่ก่อนอื่นต้องส่งโปรไฟล์มาให้ผมพิจารณาก่อน ภายในหนึ่งเดือน” แทคยอนสั่งก่อนนะเดินออกจากห้องนี้ไปเงียบๆ เขารู้ดีว่าการหาศัลยแพทย์ทางสมองเก่งๆให้ได้ภายในหนึ่งเดือนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะแพทย์เฉพาะทางด้านนี้ ในเกาหลีไม่ค่อยจะมีนัก ถึงมีก็คงผ่าตัดให้เคสน้องเขาไม่ได้แน่นอน แต่ถ้ายิ่งปล่อยไว้นานน้องชายเขาก็ยิ่งจะแย่ ทันที่ที่เดินออกจากห้องรับรอง ร่างสูงรีบก้าวขายาวๆเดินตรงไปหาน้องที่ห้องพักคนป่วยระดับ VIP ทันที
แทคยอนลากเก้าอี้มานั่งลงใกล้ๆเตียงคนป่วย อูยองมองพี่ชายตาปริบๆ เพราะไม่รู้พี่ชายเขาเครียดอะไรนัก ก็ตั้งแต่เปิดประตูเดินเข้ามาพี่แทคยอนเอาแต่คิ้วขมวดปม จนตอนนี้ก็ยังนั่งหน้าเครียดอยู่เลย
“พี่แทคยอนปวดหัวเหรอฮะ หรือว่าไม่สบายอะไรหรือเปล่าทำไมดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ให้น้องตรวจให้มั้ยฮะ” เสียงใสเอ่ยทักคนเป็นพี่ที่เอาแต่นั่งหน้าเครียดไม่พูดไม่จาอะไรแถมยังเอาแต่มองเขาแล้วก็ได้แต่ถอนหายในออกมายาวๆ
“หืม สีหน้าพี่มันเป็นแบบนั้นเหรอ?” แทคยอนเลิกคิ้วถาม เขารู้ตัวดีว่ามีเรื่องให้เครียด แต่ไม่ยักจะรู้ว่าตัวเองแสดงออกทางสีหน้าจนน้องชายเขาต้องเอ่ยทักขนาดนั้น
“ก็ใช่หน่ะสิครับ ดูสิยังเครียดอยู่เลย เครียดเรื่องอะไรฮะ?”
“ป่าวหรอก ไม่มีอะไร ว่าแต่เราเถอะจุนโฮบอกพี่ว่าน้องยังไม่ทานข้าวตั้งแต่เมื่อเช้า พี่สั่งให้พยาบาลเอาข้าวมาส่งแล้วล่ะ”
“ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้ยังปวดหัวอยู่เลย น้องไม่หิว” ทันทีที่อูยองพูดจบประโยคพยาบาลก็เอาข้าวมาส่งพอดี นี่เป็นข้าวมื้อแรกของวันเลยนะ แต่อูยองกลับมองแล้วมุ้ยหน้าอย่างขัดใจ ก็เพราะอาการปวดหัวมันเลยทำให้อูยองรู้สึกไม่อยากจะกินอะไรเลย
“ไม่หิวก็ต้องกินนะ มาพี่ป้อน” แทคยอนประครองให้น้องลุกขึ้นนั่ง
“ไม่หิวฮะ…น้องปวดหัวอยู่” อูยองงอแงแล้วมุ้ยหน้าให้กับพี่ชายที่กำลังตักข้าวรอที่จะป้อน
แทค ยอนจะไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมากมายถึงดุไปก็งอแงอีกอยู่ดี นี่ก็ปาไปบ่ายสามกว่าๆแล้ว ขืนไม่ยอมทานข้าว มีหวังได้เป็นโรคกระเพาะอีกโรคแน่ๆ แทคยอนจึงใช้ไม้ตายที่จะสยบน้องได้คือเพียงแค่เงียบแล้วส่งสายตาดุๆมองน้อง ที่กำลังงอแงเพียงแค่นี้เด็กที่กำลังงอแงอยู่ก็ยอมทานข้าวแต่โดยดี อูยองรู้ดีว่าความเงียบของพี่ชายนั้นน่ากลัวเหนือสิ่งอื่นใด ปากเล็กอ้าปากงับข้าวที่พี่แทคยอนป้อนทันที ถึงจะเป็นการป้องข้าวกันแบบขัดใจแต่ก็ยังดีที่อูยองยอมทานจนหมด หลังจากนั้นก็ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวต่อ
“พี่แทคยอน~” อูยองเรียกชื่อพี่ชายด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“หืม?” คนที่กำลังจัดแจงเก็บจานข้าวที่พึ่งจะป้อนอูยองเสร็จหันมาขานรับ น้ำเสียงออดอ้อนนำมาขนาดนี้เขาคิดว่าน้องต้องมีอะไรในใจที่อยากจะถามแน่ๆ แต่ก็คงไม่พ้นคำถามที่เขายังไม่อยากตอบน้องตอนนี้เป็นแน่แท้
“พี่ไปคุยกับอาจารย์หมอว่ายังไงเหรอฮะ อาจารย์บอกว่าน้องเป็นอะไรบอกน้องหน่อยสิ”
นึกแล้วไม่มีผิด “อืม.. เอ่อ…อาจารย์หมอของน้องบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ให้พักผ่อนให้เยอะๆ แล้วก็อย่าคิดอะไรมาก”
“แต่ว่าจุนโฮบอกอาจารย์หมอส่งน้องไปตรวจสแกนสมองด้วย น้องอยากรู้ผลสแกนฮะ” มันจะไม่เป็นอะไรมากได้ยังไง ฟังจากที่จุนโฮเล่าให้ฟังอาการของเค้าดูยังไงก็ไม่ปกติ แถมอาจารย์ยังส่งสแกนสมองอีก
“พี่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากไง”
“พี่แทคยอนโกหก! ถ้าพี่ไม่บอก น้องจะไปขอดูผล CT สแกนด้วยตัวเองก็ได้!” อูยองหน้าบึ้งให้กับพี่ชายตัวเอง อูยองรู้ดีว่าพี่ชายของเขาไม่เคยโกหก ถึงจะโกหกก็ไม่เคยเนียนเลยสักนิดอูยองจับได้ตลอดนั่นแหละ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน คิดจะมาโกหกเรื่องอาการป่วยกับว่าที่คุณหมอได้ยังไงกัน
แทคยอนมองหน้าคนที่กำลังหน้าบึ้งตึงใส่เขาอยู่ตอนนี้ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ก็ใช่ว่าแทคยอนจะอยากโกหกน้อง เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่อยากให้อูยองคิดมากไปกว่านี้ ในเมื่ออูยองบอกจะไปขอดูผลตรวจเองขนาดนี้ จะเลี่ยงยังไงก็คงไม่ได้แล้วล่ะ น้องเป็นถึงว่าที่คุณหมอ ดูผลตรวจแป๊บเดียวก็สามารถ วินิฉัยโรคเองได้แล้ว
“อูยอง คือตอนนี้พี่แค่ไม่อยากให้น้องคิดอะไรมาก เพราะพี่รู้ว่าน้องมีเรื่องให้เครียดมากพอแล้ว”
“บอกมาเถอะฮะพี่แทคยอน น้องรับไหว”
แทคยอนมองหน้าน้อง เขาแทบอยากจะร้องไห้ คนเป็นพี่ทำไมจะไม่รู้ว่าอูยองพูดว่ารับไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ในใจนั้นไม่ได้เข้มแข็งแบบคำพูดที่เอ่ยออกมาหรอก ไม่รู้ทำไมน้องของเขาถึงได้เจอแต่เรื่องร้ายๆ แทคยอนลำบากใจที่จะบอกเรื่องนี้กับน้อง แต่ยังไงสุดท้ายก็ต้องบอก คนเป็นพี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างลำบากใจก่อนจะบอกกับน้อง
“น้องมีเนื้องอกที่สมอง”
พออูยองได้ยินคำตอบที่ตัวเองอยากฟังถึงกับนั่งก้มหน้าเงียบทันที อูยองรู้ดีว่าความเครียด และพักผ่อนไม่เพียงพอมันเป็นบ่อเกิดของโรคที่อูยองกำลังเผชิญกับมันอยู่ตอนนี้ แต่เขาก็เลี่ยงมันไม่ได้ เพราะคนคนเดียว แทคยอนเห็นน้องเม้มปากแน่นคงจะพยายามจะกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ แทคยอนทำได้เพียงลูบหัวน้องเบาๆเขาสัมผัสได้ว่าร่างเล็กสั่นเทาไปทั่วร่าง มืออีกข้างของพี่ชายกุมมือน้องชายไว้แน่น
“อูยองแต่อาจารย์หมอของน้องบอกไม่ได้เป็นเนื้อร้าย ไม่ต้องกังวลนะ” แทคยอนพยายามพูดปลอบใจน้อง ช่วงนี้เหมือนเป็นช่วงมรสุมชีวิต ทำให้อูยองได้เจอแต่เรื่องร้ายๆ ตอนนี้อูยองจิตใจเปราะบางมาก เขาอยากจะภวนาให้เรื่องร้ายๆหมดลงเพียงเท่านี้ ไม่อยากให้อูยองรู้สึกย่ำแย่ไปกว่านี้
“พี่แทคยอนครับ……” เอ่ยเรียกชื่อพี่ชายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อูยองมองหน้าพี่ชายด้วยความกังวล ตาเรียวเล็กกำลังมีน้ำตาเอ่อคลออยู่
“อย่ากังวลไปเลย” แทคยอนรีบรั้งร่างน้อยมากอดปลอบพร้อมลูบหลังน้องอย่างปลอบโยน อูยองปล่อยโฮออกมาอย่างหนักในอ้อมกอดของพี่ชายพักใหญ่ๆ ก่อนจะผละออกมา มือเล็กรีบยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม
“อีกนานมั้ยครับถึงจะได้ผ่าตัด”
“ตอนนี้ที่โรงพยาบาลยังไม่มีศัลยแพทย์เฉพาะทางสมอง พี่สั่งให้ไปหาหมอเฉพาะทางที่เก่งๆมาผ่าตัดให้น้อง คงไม่เกินหนึ่งเดือนนะ อดทนอีกนิดนึง”
“น้องยังไม่อยากผ่าตัดเร็วๆนี้ ”
“หืม? กลัวเหรอ ไม่ต้องกลัวนะอูยอง ยังไงน้องก็ต้องปลอดภัย ”
อูยองส่ายหน้าให้พี่ชาย อูยองไม่กลัวที่จะได้ผ่าตัด แต่สิ่งที่อูยองกลัวมากที่สุดคือเขาจะเรียนไม่จบพร้อมเพื่อน อูยองรู้ดีว่าการผ่าตัดสมองต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ขึ้นอยู่กับว่าผลหลังจากการผ่าตัดอาการจะดีขึ้นหรือเปล่า เพราะการผ่าตัดสมองมีผลกระทบกับร่างกายหลายๆอย่าง ต้องได้รับการบำบัดเป็นเวลานานอาจจะเป็นเดือน สองเดือน หกเดือน จนถึงเป็นปี หรืออาจมากกว่านั้น
“ถ้าผ่าตัดน้องก็ต้องดรอปเรียน น้องจะเรียนไม่จบพร้อมเพื่อน จะเรียนไม่จบพร้อมจุนโฮ”
พอคิดว่าจะไม่จบพร้อมเพื่อน อูยองก็จะร้องไห้อีกแล้ว อูยองเคยมีความฝัน ถ้าเรียนจบอูยองจะออกไปเป็นแพทย์อาสาในที่ห่างไกลความเจริญสักพักนึงกับ….กับนิชคุณ… แต่ตอนนี้เขาคงไม่ได้ไปทำตามความฝันกับคนนั้นแล้ว ถ้าเกิดอูยองผ่าตัดตอนนี้ มันจะทำให้อูยองเรียนไม่จบพร้อมเพื่อนแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องพักฟื้นอีกนานแค่ไหนถึงจะกลับมาเรียนได้ ทำไมคนคนเดียวถึงทำชีวิตเขาพังได้ขนาดนี้
“พี่บอกแล้วไงว่าอย่าคิดมาก ห่วงสุขภาพตัวเองก่อนเถอะ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” แทคยอนไม่รู้จะปลอบน้องยังไงให้หายเครียดดี ปัญหาอะไรๆก็ถาโถมเข้ามาเหลือเกิน จนตอนนี้น้องเขาจะรับมันไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้แทคยอนอยากจะช่วยแบกปัญหาทั้งหมดนั่นไว้เองเหลือเกิน
.
.
.
.
พอแทคยอนมานั่งนึกถึงประโยคที่หมอพูด เขาก็ได้แต่นั่งพ่นลมหายใจออกมายาวๆหลายต่อหลายครั้ง พยายามจะปัดเป่าความเครียดออกไปจากสมองแต่ก็ไม่ได้ผล เพราะเขาทั้งคิดมาก ทั้งสงสารน้องที่ตอนนี้เจอแต่เรื่องแย่ๆเข้ามาในชีวิต ถึงหมอจะบอกว่าเนื้องอกที่เกิดในสมองของอูยองพึ่งเกิดยังมีขนาดไม่ใหญ่ แล้วก็ไม่ได้เป็นเนื้อร้ายอะไร ถ้าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี อูยองก็จะหายขาด แต่ยังไงก็ยังไม่โล่งใจอยู่ดี
“ตอนนี้ยังไม่เป็นเนื้อร้าย แต่ปล่อยไว้นานก็ไม่ดีเหมือนกัน”
“และที่สำคัญการผ่าตัดมีความเสี่ยง เพราะเนื้องอกเกิดในจุดที่อันตราย”
ประโยคที่หมอพูด มันวนเข้ามาในหัว เขาจะทำยังไงให้ได้หมอเก่งๆมาผ่าตัดให้ อูยองได้เร็วที่สุด
ก๊อก ก๊อก…. เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามทีพอเป็นมารยาทก่อนที่มินจุนจะเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องทำงานของแทคยอน
“เครียดอยู่เหรอแทคยอน” ประโยคแรกที่มินจุนเอ่ยทักเพราะเห็นสีหน้าของแทคยอนแล้วมันบ่งบอกว่าเป็นอย่างงั้น
แทคยอนพยักหน้าให้เบาๆ
แทคยอนดูเครียดเรื่องของอูยองทุกวันเพราะกลัวน้องจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ จิตแพทย์อย่างมินจุนก็กลัวแทคยอนจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วก็จิตตกไปอีกคน ช่วงนี้เลยแวะเข้ามาหาแทคยอนทุกวัน ถึงแม้งานตัวเองจะยุ่งมากก็ตาม แต่แทคยอนนั้นงานยุ่งกว่าเขาเยอะ ประชุมแทบจะทุกวันจนไม่มีเวลาได้ออกจากบริษัทจนกว่าจะค่ำ
“เห็นหน้านายค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย” แทคยอนยังไม่วายที่จะพูดหยอดคำหวานให้กับหวานใจของตัวเอง ทำเอาคนโดนหยอดแทบจะตั้งรับไม่ทัน
มินจุนยิ้มรับเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของแทคยอน แต่ช่างเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าปนกับความเครียด
“หน้าฉันมันช่วยให้นายรู้สึกดีขึ้นขนาดนั้นเลยเหรอแทคยอน งั้นคนไข้ที่มาหาฉันก็หายเครียดเพราะได้เห็นหน้าฉันสินะ” มินจุนเอ่ยพลางขำ
“ย่าห์!! แค่ฉันคนเดียวสิที่เห็นหน้านายแล้วรู้สึกดี คนอื่นจะไปรู้สึกดีทำไมล่ะ ไม่รู้ล่ะช่วงนี้เครียด นายต้องมาหาฉันบ่อยๆด้วย เพราะฉันเครียด! เครียดมากด้วยมินจุน!”
มินจุนนั่งมองแทคยอนที่กำลังนั่งกอดอกบวกกับการเอาแต่ใจตอนนี้ก็อดจะขำไม่ได้ บทจะงอแงนี่ก็ตลกดีเหมือนกัน ร่างก็ใหญ่ งอแงก็ไม่ได้น่าเอ็นดูเลยสักนิด
“นี่แทคยอนอ่า จริงๆฉันไม่อยากให้นายเครียดไปกว่านี้นะ คิดดูว่าถ้าอูยองรู้ว่านายเครียดขนาดนี้ อูยองคงรู้สึกผิด แล้วน้องก็จะรู้สึกแย่แน่ๆ นายก็รู้น้องชอบโยนความผิดให้ตัวเอง ”
“อืม ต่อหน้าน้องฉันก็พยายามจะไม่เครียดแหละมินจุน”
“ถ้านายเห็นหน้าฉันแล้วหายเครียด ฉันจะมาหานายวันละสามมือหลังอาการเลยดีมั้ย” ฟังแบบนั้นแทคยอนได้แต่หัวเราะออกมาน้อยๆ
มินจุนแค่อยากช่วยแทคยอนเท่าที่เขาสามารถจะช่วยได้ ตอนนี้เขาก็ช่วยเป็นจิตแพทย์ให้อูยอง เขาไม่อยากให้อูยองจิตตกและเครียดไปมากกว่านี้ เพราะยังไงซะความเครียดมันมีผลต่อสมองของอูยองอยู่แล้ว นี่ก็ช่วยบำบัดให้อูยองจิตใจปกติและสดใสขึ้นได้แล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเป็นจิตแพทย์ให้แทคยอนไปอีกคน มันไม่ดีแน่ถ้าพี่น้องสองคนนี้กอดคอกันเครียด
“ฉันก็หวังว่ามันจะผ่านไปได้เร็วๆ”
“มันต้องผ่านไปด้วยดีสิเชื่อฉันเถอะ แทคยอนดูนี่สิฉันชื้ออะไรมาเยอะแยะมาทานกันฉันรู้นายยังไม่ได้ทานอะไร”
แทคยอนมองคนตรงหน้าแกะถุงขนม แล้วก็ของกินอย่างอื่นออกมาวางเรียงกัน แล้วอดขำไม่ได้
“ซื้อมาเยอะขนาดนี้ นายจะซื้อมาเลี้ยงคนทั้งบริษัทฉันหรือไงมินจุน”
มินจุนหันมามองค้อนใส่ทันที “แล้วจะกินมั้ยครับอ๊คแทคยอน!!!”
“กินครับผม…”
.
.
.
.
.
.
.
.
ถึงวันที่แทคยอนขีดเส้นเดดไลน์ไว้สำหรับการส่งรายชื่อแพทย์ที่จะเข้าผ่าตัดอูยองแล้ว จริงๆเขาไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะมันเป็นการเร่งรัดเกินไป แต่ด้วยความที่หมอบอกยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งไม่ดี มันเลยบีบบังคับให้เขาต้องทำแบบนี้เพราะไม่มีทางเลือกอื่น แทคยอน มินจุน และแพทย์ประจำตระกูลของเขา เดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อพิจารณารายชื่อแพทย์ที่จะผ่าตัดให้กับอูยอง ทันทีที่ลงจากรถบอดี้การ์ดก็เดินนำไปยังห้องรับรองของโรงพยาบาลทันที ในห้องนั้นมี อาจารย์หมอของอูยอง แล้วก็หมอท่านอื่นๆมานั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว หัวโต๊ะเป็นแทคยอน ข้างซ้ายเป็นมินจุน และ ขวามือเป็นแพทย์ประจำตระกูล
“วันนี้เป็นวันเดดไลน์แล้ว ศัลยแพทย์ที่เก่งๆ พอจะหาได้บ้างมั้ยครับ?” แทคยอนเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล
“ด้วยความที่เรามีเวลาจำกัด และศัลยแพทย์เฉพาะทางนั้นมีให้เลือกไม่มากครับ” อาจารย์หมอเอ่ยขึ้น แทคยอนพยักหน้ารับ เขาก็ต้องยอมรับในข้อนี้ให้ได้ เพราะเขานั่นแหละเป็นคนกำหนดเวลาเอง
“ลองเสนอมาก่อนเถอะครับ”
อาจารย์หมอเปิดสไลด์ไล่รายชื่อแพทย์และผลงานการผ่าตัดให้แทคยอนดูทีละคนๆ เท่าที่ดูไม่เห็นว่าจะมีหมอคนไหนไม่เคยผ่าตัดไม่พลาด แล้วยิ่งเคสของอูยอง เนื้องอกเกิดในจุนที่อันตรายถ้าเกิดผ่าตัดน้องเขาพลาดขึ้นมาล่ะจะทำยังไง
จนกระทั่ง…….
ศัลยแพทย์เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและสมอง : นายแพทย์นิชคุณ หรเวชกุล
ผลงานการผ่าตัด : ไม่เคยผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
พอ ถึงสไลด์ศัลยแพทย์ท่านนี้อาจารย์หมอได้อธิบายเพิ่มเติมว่า หมอคนนี้เขาจบ เกรียตินิยมที่มหาวิทยาลัยเกาหลี และได้ทุนไปต่อเฉพาะทางที่อเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการผ่าตัดและการรักษาทางด้านสมองอยู่แล้ว แถมยังเก่งจนสามารถเรียนจบได้ภายนเวลาปีกว่าๆและเป็นที่ยอมรับของอาจารย์ที่ นั่นอีกด้วย
“ผมว่าหมอคนนี้น่าสนใจดีนะ” แพทย์ประจำตระกูลเอ่ยขึ้น
“ผมไม่เอาหมอคนนี้!” แทคยอนปฏิเสธเสียงแข็ง จนทุกคนในห้องต้องหันมามองต้นเสียงด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงไม่เอา ทั้งๆที่หมอคนนี้เก่ง ประวัติการทำงานไม่เคยผ่าตัดคนไข้พลาดเลยแม้แต่คนเดียว
“ทำไมล่ะครับคุณแทคยอน หมอคนนี้ฝีมือดีมากเลยทีเดียว น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วนะครับสำหรับเวลาที่จำกัดแบบนี้” อาจารย์หมอเสริมขึ้น
“ผมไม่เอาคนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องผมป่วยมาผ่าตัดให้น้องของผมหรอกนะ”
พูดจบแทคยอนก็รีบลุกเดินออกจากประตูไปทันที โดยมีมินจุนรีบเดินตามออกไปติดๆ
แทคยอนขึ้นไปนั่งสงบสติอารมณ์บนรถ ไม่นานมินจุนก็ตามขึ้นมา
“หมอทั้งโลกมีเก่งอยู่คนเดียวเหรอ คนอื่นไม่มีแล้วเหรอ?” แทคยอนบ่นออกมาอย่างหัวเสีย ถ้าขืนเอานิชคุณมาผ่าตัดให้อูยอง อูยองจะไม่อกแตกตายก่อนพอดีเหรอ ตอนนี้นิชคุณคือคนเดียวที่อูยองไม่อยากจะเห็นหน้า ไม่อยากได้ยินชื่อ แล้วเขาจะเลือกคนคนนี้มาผ่าตัดให้น้องได้ยังไง แค่คิดก็ตลกแล้ว มินจุนได้แต่ลูบแขนแทคยอนให้ใจเย็นลงก่อน “แทคยอนฉันรู้นะว่ามันเป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับอูยอง และเป็นเรื่องลำบากใจสำหรับนาย” มินจุนก็ไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกกับการที่จะเอานิชคุณมาเป็นหมอผ่าตัดให้อูยอง เขานึกไปถึงเรื่องจิตใจของอูยอง คงอดทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหวแน่ๆ เจ็บปวดด้วยการผ่าตัดไม่พอ ยังจะให้อูยองต้องเจ็บปวดใจอีกหน่ะเหรอ
“แล้วฉันต้องทำยังไงดีมินจุน”
มันยากนะที่เขาจะบอกแทคยอนว่าอย่าเครียด ในเมื่อเขาเองยังเครียดเลย มินจุนดีใจนะที่ตอนนี้ร่างกายและจิตใจ อูยองกำลังดีขึ้น พร้อมที่จะรับการผ่าตัดแล้ว แต่ถ้าอูยองรู้ว่านิชคุณเป็นคนผ่าตัดให้ อาการหลังจากการผ่าตัดจะไม่ทรุดไปใหญ่เหรอ ยิ่งช่วงพักฟื้น ถ้าร่างกายจิตใจอ่อนแอยิ่งจะอันตรายแบบนี้ยิ่งจะน่าเป็นห่วง
“ฉันคิดว่าเราต้องมีทางออกที่ดีแทคยอน”
.
.
.
.
.
อาจารย์หมอที่มหาวิทยาลัยเกาหลีได้มีการติดต่อมาหานิชคุณเพื่อขอเรียกตัวให้ไปผ่าตัดสมอง คนไข้คนนึง ซึ่งเป็นน้องชายของผู้ทรงอิทธิพลกับทางการแพทย์เกาหลี เขากำลังตัดสินใจว่าจะไปดีไหม ตอนนี้เรียนจบแล้วก็จริง แต่แผนการกลับเกาหลีของนิชคุณคืออีกสามเดือนข้างหน้าเพราะตอนนี้ยังต้องเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมแพทย์ที่อเมริกา ก็เพราะความเก่งและการชำนาญการเรื่องการผ่าตัดสมอง จนทำให้เขาได้รับการไว้วางใจอย่างมากทั้งๆที่เขาพึ่งเรียนจบศัลยแพทย์ทางด้านสมองมาใหม่ๆ
แต่ยังไงซะก็ขออ่านชาร์ตคนไข้ก่อนเผื่อว่าจะได้ไม่ต้องไปเอง อาจจะส่งทีมแพทย์ที่นี่ไปแทน นิชคุณกำลังนั่งอ่านชาร์ตอาการและผลตรวจของคนไข้อย่างเงียบๆ และไปสะดุดตาเข้าให้กับชื่อคนไข้
คนไข้ -จางอูยอง-
ทันทีที่เห็นชื่อคนไข้ หัวใจเขาแทบจะหยุดเต้น เรี่ยวแรงอยู่ๆก็หมดไปเอาซะดื้อๆ แม้กระทั่งแผ่นชาร์ตผลตรวจที่อยู่ในมือเขายังไม่มีเรี่ยวแรงจะจับมันไว้ พอรู้ว่าคนไข้คนนั้นคืออูยอง นิชคุณตัดสินใจจะเป็นคนไปผ่าตัดให้ทันที เขาไม่แม้แต่จะลังเลใจเพราะไม่อยากให้อูยองเป็นอะไรไป เขารีบโทรแจ้งกับอาจารย์ผู้ที่ติดต่อมาทันที แต่อาจารย์กลับบอกมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าคุณตัดสินใจแล้ว คุณจะได้เป็นคนมาผ่าตัด
จนกระทั่งวันนี้ อาจารย์ได้โทรมาแจ้งกับนิชคุณว่าไม่ผ่านการพิจารณาจากคุณแทคยอน ผู้เป็นพี่ชายของอูยอง นิชคุณแทบจะบ้าคลั่งเมื่อได้ยินอาจารย์บอกมาแบบนั้น
“อาจารย์ครับ ผมมั่นใจนะว่าผมจะสามารถผ่าตัดให้อูยองได้สำเร็จและปลอดภัย อาจารย์ลองแจ้งเขาไปอีกรอบได้ไหมครับ” นิชคุณบอกกับอาจารย์อย่างร้อนใจ
“จะให้ทำยังไงล่ะหมอ ก็คุณแทคยอนเขาปฏิเสธเสียงแข็งมาขนาดนี้”
“อาจารย์ครับ แต่ถ้าเรายิ่งปล่อยให้เวลาผ่าไปเฉยๆมันไม่มีประโยชน์นะครับ อูยองต้องได้รับการผ่าตัดให้เร็วที่สุด” นิชคุณทั้งกังวลและเป็นห่วงอูยอง จากที่เขาดูชาร์ตอาการและผลตรวจของอูยองตอนนี้ยังโชคดีที่ก้อนเนื้องอกยังขนาดเล็ก ถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานาน มันก็ยิ่งจะก้อนใหญ่ขึ้น ยิ่งอันตราย เพราะฉะนั้นเขาไม่อยากให้เสียเวลาไปมากกว่านี้
“ข้อนี้อาจารย์รู้ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ อาจารย์ก็อยากจะเชียร์ให้คุณแทคยอนเลือกหมอมาเป็นคนผ่าตัดนะ แต่เชียร์ยังไงเขาก็ไม่เอา”
“งั้นผมจะไปคุยกับคุณแทคยอนเองครับอาจารย์”
นิชคุณรู้แค่ว่าเขาต้องเป็นคนผ่าตัดให้อูยอง ไม่ว่ายังไงเขาก็จะหาทางช่วยอูยองให้ได้
.
.
.
TBC—–>
Talk
ตอนนี้บอกเลยว่ายาวมากมายก่ายกอง เวิ่นเว้อเยอะแยะมาก สงสารอูยองอีกแล้วฮืออ เจอเรื่องร้ายๆกี่อย่างแล้วเนี่ย
เอาใจช่วยคุณพี่พระเอกของเราด้วยนะคะโผล่มาสักทีนะ ไปสร้างเรื่องไม่ดีกับน้องชายคุณแทคยอนไว้ก็เหนื่อยหน่อยนะจ้ะพ่อหนุ่ม 5555
ตอนนี้มีอ๊คเคมาให้ฟินกันด้วยเบาๆ ให้มาช่วยดำเนินเรื่อง><
ตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไปพระเอกของเราจะเริ่มออกโรงแบบจริงจังแล้ว ค่อยๆเป็นค่อยๆไปอย่าเบื่อกันก่อนน้า~~ เจอกันตอนหน้าพร้อมพี่พระเอกของเราแบบเต็มสตรีม 5555
*ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์เลยน้า ชอบอ่านคอมเม้นท์ เพราะมันคือความสุขของไรท์5555 *